วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ประวัติส่วนตัว

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ นายเฉลิมพล  ธรรมบุญญา
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1  เลขที่ 43
โรงเรียนพระนารายณ์
เกิดวันที่ : 13 ตุลาคม 2539
งานอดิเรท : ชมภาพยนต์
ที่อยู่ : 86 ม.6 ต.ตะลุง อ.เมือง จ.ลพบุรี 15000
เบอร์โทร : 098-250-8626
Facebook : Pee Chalermpol
IG : pee_chalermpol

มาดูกันว่า คฤหาสน์หรูกว่า 2 พั
คฤหาสน์อันกว้างใหญ่ สถาปัตยกรรมที่สร้างความประทับใจให้ผู้พบเห็น ตั้งแต่ขนาดจนถึงภายในของคฤหาสน์ คฤหาสน์แห่งนี้มีมูลค่าถึงกว่า 2,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนเกาะที่มีเม็ดทรายขาวทะเลสีฟ้าสวยงามและแสงแดดอันแสนอบอุ่นตลอด ทั้งปี เหมาะกับการพักอาศัยอย่างเต็มเปี่ยมแห่งความสุข สบายและแสนอบอุ่นกายใจ 

วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศ - งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์

     พระนารายณ์ราชนิเวศน์

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

              สุดสัปดาห์นี้ใครที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอย่างแหล่งโบราณสถานอันเก่าแก่ และไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เข้ามาเลยค่ะ เพราะวันนี้กระปุกท่องเที่ยวขอแนะนำทริปท่องเที่ยวแบบสั้น ๆ เชิงอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ ที่สามารถไปในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ นั่นคือ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี ส่วนภายในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น ตามเราไปเที่ยวกันเลยจ้า

              พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในจังหวัดลพบุรี โดยชาวเมืองลพบุรี ได้เรียกชื่อสถานที่แห่งนี้จนติดปากว่า "วังนารายณ์" ปัจจุบันได้จัดพื้นที่บางส่วนภายในวังให้เป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ สถานที่สำหรับจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุตามอาคารและพระที่นั่งต่าง ๆ ภายในพิพิธภัณฑ์เป็นจำนวนกว่าพันรายการ ซึ่งนับเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแห่งที่ลำดับที่ 3 ของประเทศไทยอีกด้วย

    ประวัติความเป็นมา

              พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ เกิดขึ้นในสมัย สมเด็จพระนารายณ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2209 สำหรับใช้เป็นที่ประทับ ณ เมืองลพบุรี เพื่อใช้เป็นที่ประทับในการล่าสัตว์ ออกว่าราชการ รวมทั้งต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง แต่หลังจากที่สมเด็จพระนารายณ์ฯ ทรงสวรรคต ในปี พ.ศ. 2231 พระที่นั่งสุทธาสวรรค์ ที่ตั้งอยู่ภายในก็ได้หมดความสำคัญลง สมเด็จพระเพทราชา กษัตริย์องค์ใหม่ ก็ได้ย้ายหน่วยราชการทั้งหมดกลับกรุงศรีอยุธยา หลังจากนั้นก็ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดไปประทับอีกเลย ต่อมาในรัชสมัยของสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพระราชกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการซ่อมแซมกำแพงเมือง, ป้อม และประตู รวมทั้งมีการสร้างพระที่นั่งวิมารมงกุฎในพระราชวัง พร้อมทรงพระราชทานนามพระราชวังว่า "พระนารายณ์ราชนิเวศน์" ในปัจจุบัน 

              สำหรับพื้นที่ภายในทั้งหมดแบ่งออกเป็น 3 เขต ได้แก่ เขตพระราชฐานชั้นนอก เขตพระราชฐานชั้นกลาง และเขตพระราชฐานชั้นใน ดังนี้

               เขตพระราชฐานชั้นนอก

              อ่างเก็บน้ำซับเหล็กหรือถังเก็บน้ำประปา
     : เป็นระบบการจ่ายทดน้ำผลงานของชาวฝรั่งเศส โดยการสร้างที่เก็บน้ำในถัง ด้วยการก่อด้วยอิฐยกขอบเป็นกำแพงสูงหนาเป็นพิเศษ สร้างพื้นให้มีท่อดินเผาฝังอยู่เพื่อจ่ายน้ำไปใช้ตามตึกและพระที่นั่งต่าง ๆ โดยท่อดินเผา ซึ่งระบบการจัดการน้ำ ระบบการจ่ายน้ำ และทดน้ำ เป็นผลงานของชาวฝรั่งเศสและอิตาเลียน

              ตึกสิบสองท้องพระคลังหรือพระคลังศุภรัตน์ : สันนิษฐานว่าเป็นคลังสำหรับเก็บสินค้าและสิ่งของ เป็นตึกที่ตั้งเรียงรายอยู่ระหว่างอ่างเก็บน้ำและตึกเลี้ยงรับรองแขกเมือง สร้างด้วยอิฐเป็น 2 แถวยาว มีคูน้ำล้อมรอบตึก ภายในคูน้ำมีน้ำพุขึ้นมาอีกด้วย ใช้เป็นคลังสำหรับเก็บสินค้าหรือเก็บสิ่งของที่ใช้ในราชการ

    ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่วังนารายณ์ ลพบุรี

              ตึกพระเจ้าเหา : มีลักษณะเป็นหอประจำพระราชวัง และมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายใน สันนิษฐานว่าพระพุทธรูปองค์นี้มีชื่อว่า พระเจ้าเหา ซึ่งเป็นที่มาของชื่อตึกนั่นเอง

              ตึกรับรองคณะทูตต่างประเทศ : อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก โดยตึกหลังนี้ตั้งอยู่ตรงกลางอุทยาน ซึ่งแบ่งเป็นช่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส บริเวณรอบตึกมีคูน้ำล้อมรอบ ภายในคูน้ำมีน้ำพุเรียงยาว 20 จุด ซึ่งสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นสถานที่สำหรับต้อนรับคณะทูตจากต่างประเทศ

    ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่วังนารายณ์ ลพบุรี

              โรงช้างหลวง : ตั้งเรียงรายเป็นแถวชิดริมกำแพงเขตพระราชฐานชั้นนอกด้านในสุด โรงช้างส่วนใหญ่ปรักหักพังเหลือแต่ฐานปรากฏให้เห็นประมาณ 10 โรง ช้างซึ่งยืนโรงพระราชวังเป็นช้างหลวงหรือช้างสำคัญ สำหรับใช้เป็นพาหนะของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชหรือขุนนางชั้นผู้ใหญ่

               เขตพระราชฐานชั้นกลาง

    พระนารายณ์ราชนิเวศน์

              พระที่นั่งจันทรพิศาล : หอประชุมองคมนตรีในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ พระที่นั่งจันทรพิศาลใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่สร้างทับลงไปบนรากฐานเดิมของพระที่นั่งของพระราเมศวร โอรสองค์ใหญ่ของพระเจ้าอู่ทอง ได้ทรงสร้างเมื่อครั้งครองเมืองลพบุรี พระที่นั่งองค์นี้ถือเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยแท้ ภายหลังเมื่อได้สร้างพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ขึ้น สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงย้ายไปประทับที่พระที่นั่งองค์ใหญ่ และโปรดให้ใช้พระที่นั่งจันทรพิศาลเป็นที่ออกขุนนาง


    ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่วังนารายณ์ ลพบุรี

              พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท : เป็นพระที่นั่งท้องพระโรง สำหรับเสด็จออกคณะราชทูตในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มียอดแหลมทรงมณฑปศิลปกรรมแบบไทยผสมผสานกับฝรั่งเศส ตรงกลางท้องพระโรงมีสีหบัญชรที่เสด็จออกเพื่อมีปฏิสันถารกับผู้เข้าเฝ้าฯ ท้องพระโรงบริเวณประตูและหน้าต่างสร้างรูปโค้งแหลมแบบฝรั่งเศส ตัวมณฑปซึ่งอยู่ด้านหลังทั้งประตูและหน้าต่างเป็นซุ้มแบบไทย คือ ซุ้มเรือนแก้วฐานสิงห์ จุดเด่นอยู่ที่ตรงกลางท้องพระโรง โดยมีสีหบัญชรเป็นสถานที่เสด็จ ออกเพื่อมาปฏิสันถารกับผู้เข้าเฝ้าในท้องพระโรงตอนหน้า ด้านในท้องพระโรงประดับด้วยกระจกเงา ซึ่งนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส เพดานเป็นช่องสี่เหลี่ยม ประดับลายดอกไม้ทองคำและผลึกแก้ว ผนังด้านนอกเจาะเป็นช่องเล็กสำหรับใส่ตะเกียงในตอนกลางคืน

    พระนารายณ์ราชนิเวศน์

              พระที่นั่งพิมานมงกุฎ : สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของรัชกาลที่ 4 เมื่อครั้งเสด็จบูรณะเมืองลพบุรี ประกอบด้วยพระที่นั่ง 4 องค์ คือ พระที่นั่งพิมานมงกุฎ เป็นที่ประทับ, พระที่นั่งวิสุทธิวินิจฉัย เป็นท้องพระโรงเสด็จออกว่าราชการแผ่นดิน, พระที่นั่งไชยศาสตรากร เป็นที่เก็บอาวุธ และพระที่นั่งอักษรศาสตราคม เป็นที่ทรงพระอักษร ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระราชทานให้เป็นศาลากลางจังหวัด และเมื่อศาลากลางจังหวัดย้ายไปอยู่ที่เมืองใหม่ พระที่นั่งหมู่นี้จึงรวมกับพระที่นั่งจันทรพิศาลเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ในปัจจุบัน

              โดยภายในหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎมีสถานที่สำคัญที่น่าสนใจ ดังนี้

               ชั้นที่ 1 จัดแสดงโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 3,500-4,000 ปี เช่น โครงกระดูก, เปลือกหอย, ขวานหิน, ขวานสำริดและเครื่องประดับ เป็นต้น

               ชั้นที่ 2 จัดแสดงโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่พบในจังหวัดลพบุรี  เช่น ทับหลังแกะสลักรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ, พระพุทธรูปสมัยลพบุรีปางต่าง ๆ เครื่องถ้วยกระเบื้องของไทยและจีน เป็นต้น

               ชั้นที่ 3 เป็นห้องบรรทมของรัชกาลที่ 4 จัดแสดงฉลองพระองค์ เครื่องแก้ว และภาชนะที่มีตราประจำพระองค์

               ทิมดาบ : ที่พักของทหารรักษาการณ์ สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักของทหารรักษาการณ์ในเขตพระราชวังในสมัยรัชกาลที่ 4

               เขตพระราชฐานชั้นใน

    ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่วังนารายณ์ ลพบุรี

    ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่วังนารายณ์ ลพบุรี

    พระนารายณ์ราชนิเวศน์

    พระนารายณ์ราชนิเวศน์
              พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ : เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นใน บันทึกของชาวฝรั่งเศสกล่าวไว้ว่า "พระที่นั่งองค์นี้ตั้งอยู่ในพระราชอุทยานที่ร่มรื่น ทรงปลูกพรรณไม้ต่าง ๆ ด้วยพระองค์เอง หลังคาพระที่นั่งมุงด้วยกระเบื้องเคลือบสีเหลือง ที่มุมทั้งสี่มีสระน้ำขนาดใหญ่ 4 สระ เป็นที่สรงสนานของพระเจ้าแผ่นดิน" สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งองค์นี้ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2231

              หมู่ตึกพระประเทียบ : ตั้งอยู่บริเวณหลังพระที่นั่งพิมานมงกุฎ ซึ่งเป็นเขตพระราชฐานฝ่ายใน เป็นตึกชั้นเดียว 2 หลัง ก่อด้วยอิฐปูน 2 ชั้น มี 8 หลัง สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักของข้าราชการฝ่ายในที่ตามเสด็จรัชกาลที่ 4 เมื่อครั้งเสด็จประพาสที่เมืองลพบุรี

              นี่เป็นเพียงหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีที่เที่ยวอื่น ๆ อีกมาก ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าวางแผนไปเที่ยวนะคะ เพราะเดินทางสะดวกและไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกทั้งยังได้รู้เรื่องราวในอดีตของพระราชวังอีกด้วยล่ะ


    ที่มา : http://youtu.be/bfR4XMm69OQ

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558


สมูทตี้อะโวคาโดสับปะรด เครื่องดื่มดี ๆ รสชาติชวนหลงใหล
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
          สมูทตี้อะโวคาโดสับปะรดเครื่องดื่มปั่นเอาใจคนชอบดื่มสมูทตี้ผลไม้ จับอะโวคาโดมาปั่นกับน้ำสับปะรด บอกเลยว่า รสชาตินี่น่าหลงใหลอย่างไม่น่าเชื่อ

          ใครกำลังมองหาสูตรสมูทตี้อร่อย ๆ ในสไตล์ที่เหมาะกับตัวเองลองมาดูสมูทตี้สูตรนี้ที่มีส่วนผสมของอะโวคาโด ผลไม้หอมมันที่หลายคนชอบกิน แต่จะเพิ่มรสชาติให้กลมกล่อมด้วยสับปะรดหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ ใครที่ชอบอะโวคาโดต้องไม่พลาด เลยล่ะ ดื่มแล้วสดชื่น อิ่มท้อง และดีต่อสุขภาพแน่ ๆ เพราะไม่มีส่วนผสมปรุงแต่งใด ๆ นอกจากที่มาจากธรรมชาติล้วน ๆ แถมรสชาตินี่น่าหลงไหลเป็นที่สุด และที่สำคัญ ทำง่าย ๆ อีกเช่นเคย

 ส่วนผสม
           
           สับปะรด 300 กรัม

           มะนาว 1 ลูก

           อะโวคาโด 1 ลูก

           น้ำแข็ง 2-3 ก้อน

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สูตรอาหารไทย : ต้มยำกุ้ง


สูตรนี้เป็นสูตรต้มยำกุ้งน้ำข้นง่ายๆ นะครับ สามารถหาวัตถุดิบมาทำกินได้ไม่อยากนะครับ ผมเชื่อว่าเมนูนี้เป็นเมนูขึ้นชื่อของคนไทย และคนไทยก็ชอบกินกันเยอะจริงๆ เลยหล่ะครับ ยิ่งถ้าไปร้านอาหารทะเลแล้วหล่ะก็ขาดไม่ได้จริงๆ เลยหล่ะครับ เอาหล่ะ เรามาดูส่วนประกอบและเครื่องปรุงกันเลยครับ


เครื่องปรุงสำหรับต้มยำกุ้ง
  • กุ้งกุลาดำตัวใหญ่ หรือกุ้งแม่น้ำ
  • เห็ดฟางผ่าครึ่ง (อาจจะใช้เห็นนางฟ้าก็ได้ในกรณีที่ไม่มีเห็ดฟาง)
  • พริกขี้หนูทุบพอแตก
  • ตะไคร้หั่นท่อนประมาณสองนิ้วแล้วน้ำมาทุบให้พอแตก
  • ใบมะกรูดฉีกเอาแกนใบออก
  • ผักชี (เราใช้ใบในการโรยหน้าเมื่อทำเสร็จ)
  • ข่านำมาหั่นเป็นแว่น
  • น้ำพริกเผา
  • น้ำมะนาว
  • กะทิ
  • น้ำปลา
  • น้ำซุป (ในกรณีที่ไม่มีอาจจะใช้ซุปก้อนสำเร็จรูปหรือน้ำเปล่าก็พอ)
เอาหล่ะเรามาเริ่มดูวิธีทำกันเลยครับ อย่าให้เสียเวลาเริ่มจะหิวกันแล้ววว


วิธีทำต้มยำกุ้งน้ำข้น
  1. ล้างกุ้งให้สะอาด แกะเปลือกแล้วผ่าหลังเพื่อเอาเส้นดำๆ ออก ในกรณีที่เป็นกุ้งแม่น้ำให้ทำการผ่าหลังโดยไม่ต้องแกะเปลือกจะสวยน่าทานมากๆ เลยครับ
  2. หลังจากนั้นให้ต้มน้ำซุปจนเดือดแล้วใส่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พอเดือดอีกครั้งก็ใส่กุ้งลงไปได้เคล็ดลับสำหรับการต้มกุ้งไม่ควรต้มนานพอดูว่ากุ้งเปลี่ยนสีก็สามารถเบาไฟได้แล้ว จะทำให้น้ำต้มยำหวานและกุ้งไม่เหนียว
  3. หลังจากนั้นให้ทำการปรุงรสอย่างรวดเร็วโดยการใส่ น้ำปลา น้ำพริกเผา น้ำมะนาว กะทิ เห็นฟาง พริกขี้หนู แล้วรอให้เดือดอีกเล็กน้อยจึงปิดไฟ ตักใส่ชาม โดยหน้าด้วยผักชี เพียงเท่านี้ก็อร่อยอย่าบอกใครเชียว

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

70% ของผู้ใช้ชาวไทยเลือก iPhone 6 มากกว่า iPhone 6 Plus

คำถามยอดฮิตในช่วงนี้คงหนีไม่พ้น จะเลือกซื้อ iPhone 6 หรือ iPhone 6 Plus ดีนะ ซึ่งถือเป็นคำถามโลกแตกอย่างหนึ่ง เพราะทั้งสองเครื่องก็มีดีต่างกันไป โดย iPhone 6 ขนาดพอดีมือ ใช้มือเดียวได้ แต่ iPhone 6 Plus ก็จอใหญ่สะใจ แบตอึดใช้ได้นาน
ทาง MacThai เลยจัดทำผลสำรวจผู้ใช้ทั้งทาง Twitter และ Facebook ซึ่งก็ได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากทีเดียว

70% ของผู้ใช้ชาวไทยเลือก iPhone 6 มากกว่า iPhone 6 Plus

TerraBKK Research นำเสนอ Top10 มหาเศรษฐีในประเทศไทย” จากการจัดอันดับของ “Forbes Thailand” ใครแต่ละคนทำธุรกิจอะไรกัน

TerraBKK Research นำเสนอ Top10 มหาเศรษฐีในประเทศไทย” จากการจัดอันดับของ “Forbes Thailand” ใครแต่ละคนทำธุรกิจอะไรกัน ติดตามได้ดังต่อไปนี้… 

อันดับที่ 1 “ครอบครัว จิราธิวัฒน์” มีมูลค่าทรัพย์สิน 413,956.50 ล้านบาท 
          หากพูดถึงตระกูลนี้ก็จะนึกถึง “เซ็นทรัลกรุ๊ป” มีศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศไทยและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยมาจนถึงปัจจุบัน ผ่านช่วงมรสุม ผ่านร้อน ผ่านหนาว จนในที่สุดชื่อ “เซ็นทรัล” ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของใครหลายๆคนและประสบความสำเร็จอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้  โดย “เซ็นทรัลกรุ๊ป” เป็นเจ้าของแบรนด์ศูนย์การค้าดังๆในประเทศไทยหลายแบรนด์ได้แก่ Robinson, Zen และ Central เป็นต้น และยังทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภท Office Building, Hotel (Centara Hotel) อีกด้วย